แว็กซ์ขน
สาว ๆ ที่มีขนเยอะ ขนยาวที่บริเวณร่างกาย เช่น แขน หรือขา ทำให้เวลาใส่กระโปรง หรือกางเกงขาสั้นแล้วรู้สึกไม่มั่นใจ ปัญหาขนรักแร้ที่บางครั้งทำให้ได้เขินอาย จนไม่กล้าที่จะยกแขนขึ้นในที่สาธารณะ ทุกคนที่มีปัญหานี้ต้องรู้จักวิธีการกำจัดขนด้วยการ “แว๊กซ์ขน” เพราะเป็นวิธีหนึ่งที่ยอดฮิตติดลมบนสำหรับสาว ๆ และเป็นวิธีที่สะดวกและสามารถทำได้เองที่บ้าน หากไม่อยากไปใช้บริการสถานเสริมความงามต่าง ๆ สาว ๆ หลายคนจึงเลือกใช้วิธีนี้ในการกำจัดขนของตัวเอง
ชนิดของแว็กซ์
การแว็กซ์ขนนั้นมีหลายชนิดหลายวิธี โดยการแว๊กซ์ขนแบ่งออกเป็นสองชนิดใหญ่ ๆ คือแว๊กซ์เย็น และแว๊กซ์ร้อน นอกจากนี้ยังมีสูตรธรรมชาติที่เราสามารถทำเองได้จากวัตถุดิบใกล้ตัว เรามาลองศึกษารายละเอียดของการแว๊กซ์ขนชนิดต่าง ๆ กัน
- แว๊กซ์เย็น (Cold Wax) แว๊กซ์ชนิดนี้สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายเครื่องสำอางทั่วไปและมีหลายยี่ห้อให้เลือกสรร โดยมักจะเป็นครีมเหนียวบรรจุมาในกระปุก โดยในกล่องบรรจุนั้นจะมีอุปกรณ์แว็กซ์ให้ครบเลย โดยที่สาว ๆ ไม่ต้องไปหาซื้อแยก วิธีการใช้ก็แสนง่าย คือ ใช้ครีมป้ายบริเวณที่ต้องการกำจัดขน เช่น แขน หรือขา หรือบริเวณที่ต้องการกำจัดขนส่วนเกิน ใช้ผ้าที่แถมมาในกล่องวางทับ หลังจากนั้นใช้มือรีดให้แนบไปกับผิว ทาทิ้งไว้ตามเวลาที่ผลิตภัณฑ์แนะนำแต่โดยส่วนใหญ่ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีแล้วลอกออกตามแนวย้อนรอยขน ขนที่ต้องการกำจัดจะติดออกมา โดยวิธีนี้จะเป็นการกำจัดขนโดยถึงราก สามารถแว๊กซ์ขนด้วยวิธีนี้ได้เดือนละ 1 ครั้ง
- แว๊กซ์ร้อน (Hot Wax) แว๊กซ์ชนิดนี้ไม่ได้วางขายอย่างแพร่หลายและตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายเครื่องสำอางบางแห่ง วิธีการใช้ คือ นำแว๊กซ์ไปอุ่นในไมโครเวฟหรือหม้อ คล้ายหม้อหุงข้าวให้ร้อนจนเป็นน้ำข้น ๆ นำมาป้ายที่แขนหรือขา หรือบริเวณที่ต้องการกำจัดขนส่วนเกิน สาว ๆ อย่าลืมพักแว็กซ์ให้อุ่นก่อนนำมาป้ายมิเช่นนั้นอาจเกิดอาการระคายเคืองหรือการโดนแว็กซ์ลวกนั่นเอง หลังจากนั้นใช้ผ้าวางทับ รีดให้แนบไปกับผิว และทิ้งแว๊กซ์ไว้ตามเวลาที่บรรจุภัณฑ์กำหนด แล้วลอกแผ่นผ้าออกย้อนแนวขนขึ้นไป การแว๊กซ์กำจัดขนชนิดนี้สามารถทำซ้ำได้เมื่อครบ 3-6 สัปดาห์
- การแว๊กซ์ขนด้วยวัตถุดิบในบ้าน วิธีนี้เราไม่ต้องไปเลือกหาซื้อแว๊กซ์ขนตามร้านขายเครื่องสำอางซึ่งมีหลายชนิด เพียงแต่เราเลือกใช้วัตถุดิบที่หาได้ในบ้านก็สามารถทำแว๊กซ์ขนสูตรจากธรรมชาติได้แล้ว
3.1 สูตรน้ำตาลทรายแดง-มะนาว วิธีการคือนำน้ำตาลทรายแดงประมาณ 4-6 ช้อนโต๊ะ มาเคี่ยวกับมะนาว 2-3 ลูก ผสมน้ำเปล่าประมาณ ½ ถ้วย เคี่ยวให้เหนียว ก่อนใช้ควรพักให้อุ่น วิธีการทดสอบ คือ หยดแว๊กซ์หยดเล็กๆ ลงผิวถ้ารู้สึกอุ่นก็พอ นำมาพอกบริเวณที่ต้องการกำจัดขน ควรใช้ไม้ปาดให้เรียบเสมอกันหลังพอกเสร็จให้ใช้ผ้ามาวางทาบรีดให้เรียบทั่วบริเวณ ทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วลอกออกโดยดึงย้อนตามแนวขน วิธีนี้นอกจากจะกำจัดขนในบริเวณที่ไม่ต้องการได้อย่างดีแล้ว หลังขนงอกใหม่สีจะจางลงและขนอ่อนลงกว่าเดิม สูตรนี้สามารถเพิ่มดินสอพองลงไปขณะเคี่ยวเพื่อให้มีความเหนียวข้นขึ้นก็ได้
3.2 สูตรปูนแดง สูตรนี้ใช้กันมาตั้งแต่โบราณ ปูนแดงมีฤทธิ์ทางร้อนและรัดตึงผิว วิธีการคือนำปูนแดงชนิดเดียวกับที่ใช้สำหรับเคี้ยวหมากประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ มาผสมน้ำเปล่าให้ข้นเหนียว นำมาพอกบริเวณที่ต้องการกำจัดขน ใช้ผ้าฝ้ายแปะทั่วบริเวณที่จะกำจัดขนทิ้งไว้จนแห้ง 15 นาที แล้วลอกออก อาจเกิดขนขาดขึ้นได้ให้ใช้วิธีถอนขนช่วย วิธีนี้จะช่วยให้ขนที่จะขึ้นใหม่ลดลงจากเดิม สีขนจางลง ขนที่งอกใหม่จะอ่อนลงกว่าเดิม สามารถแว๊กซ์ขนด้วยวิธีนี้ได้เดือนละ 1-2 ครั้ง ขนจะลดลงและหมดไปในที่สุด
ข้อดีของการแว็กซ์ขน
- มั่นใจได้ว่าไม่โดนมีดโกนบาดแน่นอน การแว๊กซ์ขนจะเจ็บกว่าการโกนแน่นอน แต่ว่าถ้าเมื่อไหร่พลาดโดนมีดโกนบาดขึ้นมา สาว ๆ อาจจะเจ็บและยังได้รอยแผลเป็นไว้ให้อีกหลายวันด้วย แถมยังมีโอกาสเกิดอันตรายจากการติดเชื้อต่าง ๆ ถ้าเกิดโดนบาดขึ้นมาด้วย
- แว๊กซ์ได้หมดจด เพราะว่าการแว๊กซ์ขนทุกชนิดเป็นการกำจัดขนแบบถอนรากถอนโคนได้มากกว่าการโกน ถ้าคุณโกนขน ขนจะขึ้นมาทุกวันๆและอาจจะแข็งกว่าเดิม แต่ถ้าแว๊กซ์คุณสามารถอยู่ได้ถึง 2 อาทิตย์
- ขนที่ขึ้นใหม่ อ่อนนุ่ม บางเบา เพราะว่าเราถอนรากถอนโคนขนออกมา ขนที่ขึ้นมาใหม่จากการแว๊กซ์จึงไม่แข็ง ไม่หนา ไม่เหมือนขนที่เกิดจากการโกน
- ยิ่งแว๊กซ์ความเจ็บยิ่งลดลง การแว๊กซ์หลายคนอาจจะกลัวเจ็บในตอนแรก 2- 3 ที แต่ถ้าทำไปเรื่อย ๆ จะพบว่าความเจ็บจะลดน้อยลงจากตอนแรกไปมากทีเดียว
- แว๊กซ์ขนแล้วจะได้ผิวเรียบเนียนฝุด ๆ รู้กันอยู่แล้วว่าผิวจากการแว๊กซ์ขนจะเรียบเนียนมากกว่าผิวที่โกนขน เพราะการโกนผิวจะเป็นตอ ๆ บางครั้งเกิดจุดสีดำ ไม่เรียบเห็นได้ชัด
- แว๊กซ์เร็วกว่าโกน ถ้าเกิดโกนในจุดซ่อนเร้นจะทำได้อย่างยากลำบากต้องค่อย ๆ โกนอย่างระมัดระวังเนื่องจากใบมีดที่คม แต่ถ้าใช้การแว๊กซ์ขนจะรวดเร็วแม่นยำกว่า
- แว๊กซ์ช่วยขจัดสารพิษ เพราะการแว๊กซ์จะช่วยเปิดรูขุมขน และลอกเซลล์ผิวด้านบนออก สามารถขจัดน้ำมันหรือสารตกค้างในร่างกายได้
- เลือกแว๊กซ์ที่ดีกับผิวของคุณเองได้ ถ้าคุณมีผิวที่บอบบางเป็นพิเศษการโกนอาจจะทำให้เกิดการระคายเคือง คุณสามารถเลือกแว๊กซ์ที่ช่วยป้องกันอาการแพ้ระคายเคืองได้ เช่น เลือกส่วนผสมของถั่วเหลืองหรือน้ำตาลที่ใช้ในการลดโอกาสของการระคายเคือง
- แว๊กซ์เรื่อย ๆ ขนอาจจะหายไปถาวร อาจจะใช้เวลานานกว่าการเลเซอร์ แต่การแว๊กซ์ขนซ้ำ ๆ เป็นประจำจะช่วยชะลอการเติบโตของขนได้ จนอาจจะหมดไปได้
- การแว๊กซ์โอกาสเกิดขนคุดได้น้อยกว่าการโกน ถ้าเราโกนขนออกไปเป็นประจำ ขนที่งอกขึ้นมาใหม่มีโอกาสจะขึ้นแข็ง และงอกออกไม่พ้นผิว กลายเป็นขนคุดอักเสบอยู่ที่ผิวได้
ข้อเสียของการแว็กซ์ขน
- แว็กซ์ร้อน ลวกผิว อย่างที่ทราบกันแว็กซ์ร้อนต้องเอาไปเข้าไมโครเวฟก่อน ถ้าไม่ชำนาญ หรือเพิ่งเคยแว็กซ์ไม่กี่ครั้ง จะกะอุณหภูมิยาก (บางยี่ห้อจะมีแผ่นวัดอุณหภูมิให้ แต่บางยี่ห้อก็ไม่มี) วิธีวัดคือใช้ที่ตักปาดออกมาแล้วเอานิ้วจิ้มก่อน อาจกะความร้อนผิดได้
- เจ็บ การแว็กซ์จะมีอาการเจ็บมากกว่าการโกนอยู่แล้ว อาจจะน้ำตาเล็ดกันเลยทีเดียวสำหรับคนที่ยังไม่ชิน แต่ว่าบางทีดึงแว็กซ์แล้วมันถอนรากหลุด ผิวจะเป็นจุดแดงๆ ใต้หนัง
- แว็กซ์เย็นมันไม่เหนียวติดสู้แว็กซ์ร้อน ในบางครั้งการแว็กซ์แล้วขนไม่หลุดออกหมด เหลือเป็นบางจุดให้ต้องมานั่งแว็กซ์ซ้ำ ซึ่งมักจะเหนียวแล้วดึงไม่ค่อยออก
- ถ้าดึงผิดวิธี ผิวอักเสบ บวมแดง เลือดซิบ การแว็กซ์เป็นการดึงผิวอย่างรุนแรง ถ้าดึงผิดวิธีทำให้ผิวอักเสบได้
โดยปกติแล้วเราจะมีขนทั้งแขน ขา และบริเวณอื่นอยู่บ้างตามปริมาณฮอร์โมนเอนโดรเจน (Androgen) ของร่างกาย ส่วนใหญ่จะไม่มีปัญหาในด้านภาพลักษณ์ความสวยงามมากนัก แต่หากในบางรายฮอร์โมนเอนโดรเจนเยอะเกินไป เกิดขนเยอะมากจนทำให้ขาดความมั่นใจ สามารถเลือกวิธีการแว๊กซ์เพื่อกำจัดขน และหลังการแว๊กซ์ขนทุกครั้งต้องดูแลทำความสะอาดผิวและทาครีมบำรุงผิว เพื่อลดการระคายเคืองทุกครั้ง เลี่ยงครีมที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ หรือสารเคมีบริเวณที่แว๊กซ์ขน 2-3 วัน เพื่อลดการอักเสบ ระคายเคือง แค่นี้เราจะได้มีผิวเนียนใสไร้ขนและกลับมามั่นใจอีกครั้งแล้ว