สาว ๆ หลายคนอาจเนกังวลเมื่อใบหน้าเกิดสิว และไม่ทราบว่าเป็นชนิดอะไรจึงรักษาไม่ถูก แม้ว่าปัญหาสิวของสาว ๆ จะมีอยู่หลายชนิดแตกต่างกันไป ทั้ง สิวหัวช้าง สิวผด สิวเสี้ยน แต่สิวที่กวนใจและเป็นปัญหาหนักใจที่สุด เพราะดูเด่นชัดมากที่สุดคงจะเป็นสิวหัวหนอง เพราะสิวชนิดนี้มีลักษณะเป็นตุ่มใหญ่ สีขาวขุ่น ถ้าต้องการกลบรอยโดยการใช้แป้งหรือเครื่องสำอางตัวไหนมากลบก็ไม่มิด มีเพียงทางเดียวที่ช่วยลดรอยคือ ต้องหาวิธีรักษาสิวหัวหนอง เท่านั้น ถึงจะลดความเด่นของสิวเม็ดนั้นออกไปจากใบหน้าเราได้
วันนี้เราจึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสิวหัวหนอง ทั้งสาเหตุและวิธีรักษาสิวหัวหนองมาฝากกัน มาดูกันเลย
การเกิด Papules และ Pustules
การเกิด papules, pustules, สิวหัวขาว whiteheads, สิวหัวดำ blackheads, ตุ่มnodules และซีส cysts จะคล้าย ๆ กัน โดยเริ่มจากการสร้างไขมันในต่อมไขมันเป็นปริมาณมากกว่าปกติและหลั่งมาตามรูขุมขน เมื่อไขมันนี้รวมกับเซลล์ที่ตายที่ไม่ได้ขัดออกก็จะเกิดการอุดของต่อมขุมขนทำให้เกิดสิวนั่นเอง
หากมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วยก็จะยิ่งทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้น หากไม่รักษาจะเกิดการลุกลามมากขึ้น กลายเป็นตุ่ม nodules และซีต cysts
สิว Papules
สิว Papules เป็นสิวชนิดหนึ่งที่เป็นตุ่มยื่นออกมาจากผิวหนัง สิวชนิดนี้จะไม่มีหัว ไม่มีรูเปิดเหมือนสิวหัวดำ ลักษณะจะเป็นตุ่มแดงและอักเสบโดยรอบ ไม่ควรจะบีบหัวสิวออก เพราะสิวชนิดนี้ไม่สามารถบีบออกได้เนื่องจากหัวปิด
หากต้องการบีบบจริง ๆ จะใช้วิธีการเจาะแล้วจึงบีบออก หากไม่เชี่ยวชาญพออาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อ และเกิดแผลเป็นได้
สิว Pustules
คือตุ่มสิวที่ตรงกลางของหัวสิวจะเป็นหนองสีเหลืองเห็นได้ชัดเจน สิวประเภทนี้จะเป็นสิวที่มีความรุนแรงระดับปานกลางขึ้นไปจนถึงรุนแรงมาก คุณไม่ควรจะบีบสิวประเภทนี้เพราะอาจจะทำให้เกิดแผลเป็นได้ง่าย และมีอาการเจ็บปวดร่วมด้วย
เมื่อสิวเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียทำให้เซลล์บริเวณนั้นตาย และมีการหลั่งสารที่เรียกว่า Toxin สารชนิดนี้จะกระตุ้นการอักเสบ เลือดจะมาเลี้ยงยังบริเวณนั้นเพิ่มขั้น และเม็ดเลือดขาวก็มายังบริเวณนี้เพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงเกิดหนองอักเสบบริเวณนี้มาก
อาการที่สำคัญของสิวที่เป็นหนองคือ
- ผิวรอบ ๆ สิวจะแดง บวม
- บริเวณที่เป็นสิวจะร้อน
- มีอาการเจ็บปวดบริเวณที่เป็นสิว
นอกจากนั้นอาจจะมีอาการอื่น ๆ ได้แก่
- ปวดตามตัว
- อ่อนเพลีย
- ไข้หนาวสั่น
- เจ็บปวดและบวมแดงบริเวณที่เป็น
อาการที่บ่งบอกว่าสิวมีความอักเสบรุนแรง
- มีอาการหน้ามืดเมื่อเปลี่ยนจากท่านอนไปเป็นท่านั่งอย่างเร็ว
- อ่อนเพลีย
- ปวดศีรษะรุนแรง
- มีไข้สูงมาก
- หายใจลำบาก หายใจหอบ หายใจมีเสียงดัง
- มีอาการปวดและบวมบริเวณที่เป็นสิว
สิวหัวหนองเกิดจากอะไร
- เกิดจากไขมันอุดตัน
เมื่อร่างกายมีการผลิตเหงื่อและไขมันที่มากเกินไป นอกจากจะทำให้หน้าสาว ๆ มันมากกว่าปกติแล้ว ไขมันที่ผลิตเกินเหล่านี้จะไปสะสมตรงรูขุมขนของเราจนหนา แล้วเมื่อไม่สามารถทำความสะอาดออกไปได้หมดจะทำให้เป็นต้นเหตุของการเกิดสิวหัวหนองได้
- ทำความสะอาดเครื่องสำอางได้ไม่ดีพอ
เครื่องสำอางและครีมบำรุงผิวที่เราทาทุกวัน หากทำความสะอาดออกไปไม่หมดจะเกิดคราบตกค้างบนผิวหน้าได้ กลายที่มีสิ่งสกปรกตกค้างบนผิวหน้าและเกิดการสะสมขึ้นนั้น นานวันเข้าก็จะอุดตันรูขุมขนจนมีสิวหัวหนองขึ้นมา
- ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป
เมื่อร่างกายมีระดับของฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วหรืออย่างมาก นอกจากจะส่งผลต่ออารมณ์แปรปรวนและอวัยวะบางส่วนแล้ว อีกสิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดจากการเปลี่ยนแปลงนี้คือสิวที่ขึ้นมาบนหน้านั่นเอง โดยเฉพาะสิวอักเสบและสิวหัวหนองจะมีฮอร์โมนเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการอักเสบมากขึ้น ต่อให้รักษาระดับฮอร์โมนได้คงที่แล้ว สิวเหล่านี้ก็ไม่ได้หายไปในทันที
- รักษาสิวอุดตันได้ไม่ดีพอ
สิวอุดตันนั้น เกิดจากการอุดตันของไขมันในรูขุมขนบนผิวหน้า สาเหตุมาจากทั้งเหงื่อไคล และจากเครื่องสำอางที่ทิ้งคราบเมื่อล้างไม่สะอาด เมื่อไรก็ตามที่สิวอุดตันถูกกระตุ้นด้วยปัจจัยกระตุ้นต่าง ๆ มันก็จะปวดแดงจนกลายเป็นสิวอักเสบ และกลายเป็นสิวหัวหนองได้ในที่สุด
วิธีรักษาสิวหัวหนอง
- ใช้สมุนไพรพอกตรงจุดที่เกิดสิว
ใช้ผงสมุนไพรที่หาได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อ หรือจะใช้สมุนไพรจากก้นครัวผสมเองก็ได้
สูตรทานาคา ผงทานาคา ผงขมิ้น และผงไพร มาผสมรวมกันอย่างละครึ่งช้อนชา ผสมน้ำเล็กน้อยคนให้เข้ากันจนเป็นครีมข้น จากนั้นก็เอามาพอกตรงสิวหัวหนองข้ามคืน คุณสมบัติสมุนไพรเหล่านี้จะช่วยดูดซับสิ่งสกปรกและขจัดแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวได้เป็นอย่างดี เพียงเท่านี้สิวหัวหนองก็จะยุบลงได้แล้ว
- ใช้แผ่นดูดสิวช่วยซับสิวหัวหนอง
แผ่นดูดสิวแผ่นเล็ก ๆ กลม ๆ ที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป มักมีส่วนผสมของไฮโดรคอลลอยด์ ซึ่งสารนี้จะเข้าไปดูดซับของเหลวได้เป็นอย่างดี เมื่อนำมาแปะบนสิวหัวหนองไว้ข้ามคืนก็จะดูดสิวจนยุบเกลี้ยง ควรปิดต่อไว้อีกสัก 1 วัน นอกจากจะช่วยป้องกันไม่ให้ผิวโดนฝุ่นละออง ยังป้องกันแบคทีเรียที่เข้ามาทำลายแผลสิวได้ด้วย
- ใช้ครีมหรือเจลผลัดเซลล์ผิว
ใช้ครีมหรือเจลที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก เลือกความเข้มข้นตั้งแต่ 0.5-2 % ทาลงบริเวณที่เกิดสิวหัวหนองเป็นประจำทุกวัน วิธีนี้จะช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นบนและลอกสิวออกไปได้ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติช่วยลดความมันบนผิว ทำให้รูขุมขนกระชับขึ้น เมื่อใช้อย่างต่อเนื่องจะช่วยลดแผลเป็นจากสิวให้จางลงอีกด้วย
- สิวหัวหนอง ควรกดไหม ทำอย่างไรให้ถูกวิธี
สาว ๆ อาจจะสิวหัวหนองที่ไม่ยอมยุบสักที เราสามารถกดออกได้โดยใช้แท่งกดสิวกับเข็มสะกิดหัวสิว อย่าลืมเรื่องความสะอาดเด็ดขาด ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ต้องผ่านการล้างและเช็ดด้วยแอลกอฮอล์มาอย่างดีแล้วก่อนนำมาใช้
ขั้นตอนคือให้ใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์เช็ดลงหัวสิวที่ต้องการกด ต่อมาใช้ปลายเข็มสะกิดอย่างเบามือลงบนหัวสิว แล้วใช้แท่งกดหัวสิวกดลงไปตรงหัวสิวบีบสิวหนองจนกว่าหนองจะไหลออกมาหมด
แนะนำว่าควรทำทุกขั้นตอนอย่างละเอียดและเบามือที่สุดเพื่อลดโอกาสเกิดแผลเป็นในบริเวณกว้างและช้ำเกินไป หลังจากกดเสร็จแล้วให้เช็ดแผลให้สะอาด และให้เลี่ยงเครื่องสำอางชนิดฝุ่นจนกว่ารอยสิวจะแห้ง
- ปรับระดับฮอร์โมน
สิวหรือสิวอักเสบถ้ารักษาภายนอกมามากมายแล้วยังไม่หาย อาจเกิดจากฮอร์โมน สาว ๆ ต้องพึ่งพาคุณหมอให้ช่วยอีกแรง โดยลองไปปรึกษากับหมอเรื่องฮอร์โมน ตรวจเช็กร่างกาย เช็คระดับฮอร์โมนว่าอยู่ในเกณฑ์ไหน ต้องรักษาอย่างไร ควรรับยากินหรือยาฉีดเข้าไป เพียงเท่านี้ปัญหาสิวหัวหนองที่เกิดจากฮอร์โมนก็จะลดลงแล้ว
วิธีป้องกันสิวหัวหนอง
- รักษาความสะอาดผิว
สาว ๆ ที่ชอบแต่งหน้าเป็นประจำ ควรใช้คลีนเซอร์สำหรับเช็ดเครื่องสำอางโดยเฉพาะเช็ดเครื่องสำอางทั้งหลาย ออกให้หมดจนไม่เหลือคราบสีบนสำลีเลย จากนั้นจึงล้างออกด้วยโฟมล้างหน้าสูตรเหมาะกับผิว ก่อนลงครีมบำรุงให้ใช้การเช็ดโทนเนอร์เพื่อเช็ดให้สะอาดอีกที และเป็นการตรวจให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งสกปรกหรือเครื่องสำอางตกค้างบนผิว ถ้าวันไหนที่ไม่แต่งหน้าก็ควรเช็ดเครื่องสำอางด้วย เพราะไขมันบนใบหน้าและฝุ่นละอองก็ทำให้เกิดสิวได้เช่นกัน
- เปลี่ยนครีมบำรุงผิว
หากสาว ๆ หน้ามันและเกิดอาการแพ้ครีมหรือครีมบำรุงผิวบางตัวอาจมีสารที่ทำให้เกิดอาการแพ้ เมื่อลงครีมทาหน้าเข้าไปซ้ำรูขุมขนก็อาจอุดตันได้ ดังนั้นควรเปลี่ยนมาใช้เนื้อเซรั่ม ซึ่งเป็นเนื้อบางเบาหรือน้ำตบแทนก็น่าจะเพียงพอต่อการบำรุงผิวแล้ว
- ปรับระดับฮอร์โมนให้คงที่
สิวหัวหนองที่เกิดจากฮอร์โมนก็ต้องรักษาด้วยการปรับระดับฮอร์โมนถึงจะตรงจุด ให้รักษาโดยการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้ช่วยแก้ไขในเรื่องนี้ได้ตรงจุด ปัญหาสิวหนองกวนใจก็จะหมดไป